หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กำเนิดการกินเจ



กำเนิดการกินเจ

     
       คำว่า ‘เจ’ ในภาษาจีน มีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า
อุโบสถ’ ส่วนกินเจหมายถึงการรับประทานอาหารก่อนเที่ยง ถ้ารับประทาน
อาหารหลังเที่ยงจะเรียกว่ากินเจไม่ได้ เนื่องจากการถืออุโบสถของจีนจะไม่รับประทานอาหารเนื้อสัตว์ จึงเพี้ยนไปว่าการกินเจเป็นการไม่กินเนื้อสัตว์ ทั้งที่การไม่กินเนื้อสัตว์เรียกว่า กินสู่
       มีตำนานเล่าว่า ในสมัยพระเจ้าแผ่นดินราชวงศ์ยิ่นฮ่วงสี อันแปลว่า
ผู้เป็นเจ้าใหญ่แห่งมนุษย์ ซึ่งชาวจีนนับถือมากและถือว่าเป็นผู้วิเศษ มีอยู่ด้วยกัน 9 พระองค์พี่น้อง ได้สวรรคตแล้วจุติเป็นดาวจระเข้เรียงกัน 9 ดวง จึงเรียกกันว่า เก๊าฮวง ฮุดโจ้ว ซึ่งจะเป็นผู้ที่ถือบัญชีมนุษย์ สามารถต่อชีวิตแก้ผู้สิ้นอายุขัยให้ยืนยาวต่อไปได้ ชาวจีนจึงถือว่า 1-9ค่ำ เดือน9 เป็นวันที่
เก๊าฮวง ฮุดโจ้ว จะลงมาตรวจสอบจดบันทึก และบันดาลให้เป้นไปตามกรรมดีกรรมชั่วของแต่ละคน
        ดังนั้นในช่วงระยะนี้ คนจีนจึงพากันยกเว้นอาหารสดคาวชั่วคราว เพื่อแสดงว่าตนได้ประกอบกรรมดีให้พระเจ้าเห็น

        ในช่วงทำพิธีนี้กินเจนี้ มักจะเห็นธงที่ปักตามร้านอาหารเจเป็นสีเหลือง ด้วยถือว่าเป็นสีของพระเจ้าแผ่นดิน

เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก


เจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก


     การจัดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกแบ่งเป็นยุคโบราณและยุคปัจจุบัน
(บางตำราแบ่งเป็นยุคกลางยุคหนึ่ง) สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณนั้น นักเขียนชาวกรีกชื่อ แอนติแพทเทอร์ แห่งไซดอน ซึ่งมีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลเป็นผู้จัดอันดับ ที่จัดไว้ 7 สิ่ง ก็เพราะเลข 7 เป็นเลขอาถรรณ์ของกรีก 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณก็คือ

1.       ปิรามิดแห่งอียิปต์
2.      สวนลอยแห่งบาบิโลน
3.      อนุสาวรีย์เทพเจ้าซุสแห่งโอลิมเปีย
4.      วิหารอาร์ทีมิสที่อีเฟซุส
5.      สุสานมุสโซลิอัมแห่งฮาลิคาร์นัสซุส
6.      อนุสาวรีย์โคโลสซุสแห่งโรดส์
7.      ประภาคารฟารอสแห่งอาเล็กซานเดรีย

กินยากินก่อน-หลังอาหาร


กินยากินก่อน-หลังอาหาร
    
        เรื่องนี้มีคนเข้าใจผิดกันค่อนข้างมาก คนส่วนมากถ้ากินยาก่อนอาหารก็กินยาแล้วกินอาหารทันที และถ้ากินยาหลังอาหาร พออิ่มปั๊บก็จัดการกินยาทันที  ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าสะดวกในการจดจำ และทั้งก่อนหรือหลัอาหารก็มีน้ำให้กินยาได้ทันทีอยู่แล้ว   แต่ทั้งสองกรณีนั้นมีผลเหมือนกันคือ กินยาพร้อมอาหารนั่นเองซึ่งไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง

     ยาก่อนอาหารก็คือ ยาที่จะละลายได้ดีในสภาวะเป็นกรด ทุกครั้งที่เรากินยา มันจะวิ่งลงไปรออยู่ที่กระเพาะเป็นด่านแรก  ถ้าไม่มีอุบติเหตุ เช่น สำลักหรือยาติดคอเข้ามายุ่ง กระเพาะคนเราในขณะที่ว่างจากอาหารจะมีน้ำย่อยซึ่งมีคุณสมบัติเป็นกรด  เมื่อยาลงไปถูกกรดในกระเพาะ  ก็จะละลายแล้วดูดซึมได้ดี ทำให้เป็นผลดีในการรักษา

          ยาหลังอาหาร ส่วนมากมักมีฤทธิ์เป็นกรดหรือมีฤทธิ์กัดกระเพาะถ้ากินยาเข้าไปในขณะท้องว่าง ยาก็จะกัดกระเพาะ ทำให้อาจเป็นแผลเป็นโรคกระเพาะได้ หรือยาหลังอาหารบางชนิดเมื่อกินขณะท้องว่างกรดจากกระเพาะจะไปฆ่าฤทธิ์ยา ทำให้ยาขาดประสิทธิภาพ ถึงเป็นเหตุผลว่าต้องกินยาหลังอาหาร

ที่ถูกควรกินยาก่อนหรือหลังอาหารสักเท่าใด ?

          ยาที่กินก่อนอาหารควรกินก่อนประมาณ 30 นาที  เพื่อให้ยาไปละลายดูดซึมได้ดี  ส่วนยาหลังอาหารควรกินหลังอาหารไปแล้วประมาณ  15-30 นาที เพื่อให้อาหารย่อยไปสักครู่ก่อน  ยาจะได้ดูดซึมพร้อม ๆ  กับอาหารได้พอดี