กำเนิดการกินเจ
คำว่า ‘เจ’ ในภาษาจีน
มีความหมายทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานว่า
‘อุโบสถ’ ส่วนกินเจหมายถึงการรับประทานอาหารก่อนเที่ยง
ถ้ารับประทาน
อาหารหลังเที่ยงจะเรียกว่ากินเจไม่ได้
เนื่องจากการถืออุโบสถของจีนจะไม่รับประทานอาหารเนื้อสัตว์
จึงเพี้ยนไปว่าการกินเจเป็นการไม่กินเนื้อสัตว์
ทั้งที่การไม่กินเนื้อสัตว์เรียกว่า กินสู่
มีตำนานเล่าว่า ในสมัยพระเจ้าแผ่นดินราชวงศ์ยิ่นฮ่วงสี อันแปลว่า
ผู้เป็นเจ้าใหญ่แห่งมนุษย์
ซึ่งชาวจีนนับถือมากและถือว่าเป็นผู้วิเศษ มีอยู่ด้วยกัน 9 พระองค์พี่น้อง
ได้สวรรคตแล้วจุติเป็นดาวจระเข้เรียงกัน 9 ดวง จึงเรียกกันว่า เก๊าฮวง ฮุดโจ้ว
ซึ่งจะเป็นผู้ที่ถือบัญชีมนุษย์ สามารถต่อชีวิตแก้ผู้สิ้นอายุขัยให้ยืนยาวต่อไปได้
ชาวจีนจึงถือว่า 1-9ค่ำ เดือน9 เป็นวันที่
เก๊าฮวง ฮุดโจ้ว จะลงมาตรวจสอบจดบันทึก
และบันดาลให้เป้นไปตามกรรมดีกรรมชั่วของแต่ละคน
ดังนั้นในช่วงระยะนี้ คนจีนจึงพากันยกเว้นอาหารสดคาวชั่วคราว
เพื่อแสดงว่าตนได้ประกอบกรรมดีให้พระเจ้าเห็น
ในช่วงทำพิธีนี้กินเจนี้ มักจะเห็นธงที่ปักตามร้านอาหารเจเป็นสีเหลือง
ด้วยถือว่าเป็นสีของพระเจ้าแผ่นดิน